การเมืองกับเศรษฐกิจโลก
ปัจจุบันการก่อตัวของมหานคร
(mega-cities) ต่าง ๆ
ในภูมิภาคได้เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องกับวิวัฒนาการของกระแสเศรษฐกิจของโลกโดย
จะเห็นได้จากการที่ตลาดสินค้าและบริการระหว่างประเทศได้มีการพัฒนาขึ้นอย่าง
เป็นลำดับ เนื่องจากได้รับการส่งเสริมจากการจัดตั้งของเขตการค้าเสรี (free
trade zone) ขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น Asean หรือ APEC
รวมทั้งการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมหลักของประเทศต่าง ๆ เช่น
เขตอุตสาหกรรมของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
รวมทั้งระบบเศรษฐกิจของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่ผลผลิตจะประกอบขึ้นจาก
ชิ้นส่วนการผลิตที่มาจากแหล่งผลิตต่าง ๆ ทั่วโลก
และเป็นการเริ่มต้นยุคของบริษัทระหว่างประเทศ (transnational corporation)
เศรษฐกิจโลกเป็นผลของกระแสโลกาภิวัตน์ที่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อ
เนื่องมาโดยตลอดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การโยกย้าย การหลั่งไหล
และเกิดความซับซ้อนต่าง ๆ
ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นผ่านเครือข่ายระหว่างประเทศในเรื่องที่เกี่ยว
ข้องกับการติดต่อสื่อสาร การค้า วัฒนธรรมและสังคม และกิจกรรมทางการเมือง
กระแสโลกาภิวัตน์ได้ครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ
อย่างกว้างขวางและได้รับการกระตุ้น
จากการปฏิวัติในเรื่องการขนส่งและการติดต่อสื่อสาร
ซึ่งทำให้เวลาและระยะทางการติดต่อหดสั้นลง
และที่สำคัญทำให้ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและการขนส่งลดน้อยลงอย่างมาก
ในปัจจุบัน ยิ่งกว่านั้น
กระแสโลกาภิวัตน์ยังเกี่ยวข้องกับการบูรณาการให้เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ
รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งปรากฏให้เห็นถึง การเกิดขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า
มาตรฐานโลก (common global standards) เช่น ในอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์
หรือการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา
และการผลิตสินค้าและบริการแต่ละชนิด
เป็นกระบวนการผลิตที่มาจากแหล่งผลิตในหลายประเทศแล้วมาประกอบรวมกันภายหลัง
ปัจจุบันจึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าสินค้ามีแหล่งผลิต
ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ผลก็คือ
ทำให้การตัดสินใจเลือกสถานที่สำหรับการเป็นฐานการผลิตทางอุตสาหกรรมของ
บริษัทระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากจะอาศัยการเปรียบเทียบปัจจัยด้านค่าแรง
(labor cost) แล้วยังมีการพิจารณาถึงความได้เปรียบของปัจจัยอื่น ๆ
ซึ่งประเทศที่อยู่ในข่ายว่าจะได้รับการเลือกให้เป็นที่ตั้งฐานการผลิตดัง
กล่าว มีอยู่ เช่น การมีมาตรการและสิ่งจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุน
รวมถึงระบบกฎหมายข้อบังคับและระเบียบที่ดีใช้บังคับอยู่ของประเทศนั้นด้วย
ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่การใช้วัตถุดิบสำหรับการเป็นปัจจัยการผลิต
ในระบบอุตสาหกรรมของประเทศที่มี ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้ลดความสำคัญลง
และมีผลกระทบทำให้บทบาทความสำคัญของพื้นที่ที่เป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ
ก็ลดลงตามไปด้วย ขณะที่ทุน (capital)
กลับมีความสำคัญที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบทบาทของเงินทุนในระบบเศรษฐกิจระหว่าง
ประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นแรงขับดันของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันและ เงินตรา
(currency) ยังได้กลายเป็นแรงขับดันสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในชุมชนเมือง
การให้บริการทางการเงินและธุรกิจต่าง ๆ
หรือการดำเนินธุรกรรมของทุนผ่านทางศูนย์ธุรกิจการค้าต่าง ๆ และอาคารทันสมัย
รวมทั้งการเข้าถึงตลาดทุนและแหล่งข้อมูลข่าวสารและการลงทุนกลายเป็นสิ่งที่
เกิดขึ้นอยู่ภายในเมืองระดับโลกต่าง ๆ และการเคลื่อนย้ายทุน (capital
mobility) ได้ทำให้เมือง
มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการเป็นจุดเชื่อมต่อของเครือข่ายบริษัทระหว่างประเทศ
และของเมืองต่าง ๆ เข้าด้วยกัน (Savitch, 2003, pp. 22-29; Yeung & Lo,
1998, pp. 132-134)
การก่อตัวของอุตสาหกรรมที่ใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นหลัก (information-based
industries) เช่น ธุรกิจการให้บริการทางการเงิน การบัญชี การโฆษณา
และสำนักงานกฎหมาย รวมไปถึงบริการด้านการวิจัยและการพัฒนา การสื่อสารมวลชน
ซึ่งสำนักงานใหญ่
ของอุตสาหกรรมและการค้าการบริการเหล่านี้ต่างก็ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ
ในการส่งและกระจายข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
จึงได้กลายเป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างในหลายสิ่งหลายอย่าง
ได้แก่ นวัตกรรมทางด้านคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ โทรคมนาคม
วัตถุสังเคราะห์ และเทคโนโลยีชีวภาพ ได้ส่งเสริมระบบการผลิต
และทำให้ธุรกรรมทางธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว
และมีการปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจไปจากแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง
รวมทั้งเป็นการเปิดกว้างต่อการสร้างสรรค์ต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้น
พื้นที่ภายในเมืองต่าง ๆ
จึงกลายเป็นที่ตั้งโดยธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่ใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นหลัก
เนื่องจากเมืองเป็นแหล่งรวมของระบบเศรษฐกิจและเมืองยังมีลักษณะแวดล้อมที่มี
ความเป็นนวัตกรรมที่สูง จึงเป็นประโยชน์ต่อการเข้ามาตั้งอุตสาหกรรมดังกล่าว
(Clarke, 1996)
เมืองได้กลายเป็นแหล่งที่รวบรวมและฟูมฟักให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ
ในระดับท้องถิ่นและไปสู่ระดับโลก
เมืองได้เพิ่มพูนประโยชน์จากความรู้ความสามารถของมนุษย์และพลังจากเครื่อง
จักรกลต่าง ๆ เพราะเมืองก่อให้เกิดการขนส่งที่มีราคาถูกและรวดเร็ว
และเมืองทำให้มีตลาดแรงงานที่มีผลผลิตสูงและมีความยืดหยุ่น
นอกจากนี้เมืองยังจะช่วยในการกระจายของผลผลิต แนวคิด (ideas)
และทรัพยากรมนุษย์ระหว่างเขตชุมชนเมือง เขตชานเมือง
และเขตชนบทลักษณะที่พื้นที่ของเมืองได้รวบรวมเอาสิ่งต่าง ๆ ไว้ในพื้นที่
ทำให้เมืองได้กลายเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือและแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่จะ
เกิดขึ้นต่าง ๆ
รวมทั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เศรษฐกิจโลกใช้เป็นที่วางแผนและจัดตั้งหน่วย
ธุรกิจขึ้นมา เพราะเมืองสามารถแปรเปลี่ยนที่ว่าง (space)
ให้เป็นที่สำหรับองค์การต่าง ๆ ที่จะทำหน้าที่ของตนอันหลากหลาย
และเมืองมีโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure)
ที่จำเป็นสำหรับการสนับสนุนแรงงานด้านบริการจำนวนหลายล้านคน
รวมทั้งเมืองยังจัดให้มีช่องทางสำหรับการขนส่งสินค้า เงินทุน
และข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว (Savitch, 2003, pp. 22-29)
ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เมืองและมหานครต่าง ๆ
จะต้องส่งเสริมและโฆษณาเมืองของตนเองเพื่อแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบใน
ด้านต่าง ๆ เมื่อมีการเปรียบเทียบกันในเรื่องของการขนส่ง การติดต่อสื่อสาร
และการมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการผลิตในทาง
อุตสาหกรรม รวมไปถึงความได้เปรียบในเรื่องของความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย
การมีที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ มีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
ค่าครองชีพไม่สูงเกินไป และมีสิ่งดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว
ผลที่กำลังเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากลักษณะของเศรษฐกิจโลก ก็คือ เมืองต่าง
ๆ ในทุกภูมิภาคโดยเฉพาะเมืองในระดับมหานคร
ต่างก็กำลังแข่งขันกันเองอย่างแข็งขันเพื่อเชิญชวนการเข้ามาลงทุนจากนักลง
ทุนภายนอกประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจากประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว
หรือนักลงทุนจากภูมิภาคของเอเชีย เช่น จากฮ่องกง สิงคโปร์ และไทเป
ที่เห็นได้ชัด ก็คือ พื้นที่การค้า “ปูตง”
ของเมืองเซี่ยงไฮ้ก็กำลังแข่งขันกับโครงการ ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
(eastern seaboard project) ของประเทศไทย
ซึ่งเป็นโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ของกรุงเทพมหานครไว้ด้วย (Yeung &
Lo, 1998, pp. 132-134)
เป็นที่น่าสังเกตว่า
ในการแข่งขันกันเพื่อสร้างสิ่งจูงใจสำหรับการเข้ามาลงทุน
จากภายนอกของมหานครและเมืองต่าง ๆ
ก็จะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้เช่นเดียวกับการแข่งขันอื่น ๆ
ซึ่งการเป็นผู้ชนะย่อม หมายถึง
การเป็นเมืองที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นผลสำเร็จในเรื่องโครงสร้างพื้น
ฐานการให้บริการ การพักผ่อนหย่อนใจ ที่พักอาศัย และส่วนอื่น ๆ
ที่สามารถดึงดูดใจให้กับนักลงทุนรายใหม่ ๆ ได้เข้ามาลงทุน
และการเป็นเมืองผู้แพ้นั้นก็จะ หมายถึง
การที่เมืองมีการชะงักงันทางเศรษฐกิจเพราะปราศจากการลงทุนจากภายนอกและอาจ
ส่งผลต่อปัญหาอื่น ๆ ของเมืองด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น