วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การจัดการกับความซับซ้อนของโลก

การเมืองกับเศรษฐกิจโลก
             ปัจจุบันการก่อตัวของมหานคร (mega-cities) ต่าง ๆ ในภูมิภาคได้เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องกับวิวัฒนาการของกระแสเศรษฐกิจของโลกโดย จะเห็นได้จากการที่ตลาดสินค้าและบริการระหว่างประเทศได้มีการพัฒนาขึ้นอย่าง เป็นลำดับ เนื่องจากได้รับการส่งเสริมจากการจัดตั้งของเขตการค้าเสรี (free trade zone) ขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น Asean หรือ APEC รวมทั้งการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมหลักของประเทศต่าง ๆ เช่น  เขตอุตสาหกรรมของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งระบบเศรษฐกิจของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่ผลผลิตจะประกอบขึ้นจาก ชิ้นส่วนการผลิตที่มาจากแหล่งผลิตต่าง ๆ ทั่วโลก และเป็นการเริ่มต้นยุคของบริษัทระหว่างประเทศ (transnational corporation) เศรษฐกิจโลกเป็นผลของกระแสโลกาภิวัตน์ที่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อ เนื่องมาโดยตลอดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การโยกย้าย การหลั่งไหล และเกิดความซับซ้อนต่าง ๆ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นผ่านเครือข่ายระหว่างประเทศในเรื่องที่เกี่ยว ข้องกับการติดต่อสื่อสาร การค้า วัฒนธรรมและสังคม และกิจกรรมทางการเมือง กระแสโลกาภิวัตน์ได้ครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างกว้างขวางและได้รับการกระตุ้น จากการปฏิวัติในเรื่องการขนส่งและการติดต่อสื่อสาร ซึ่งทำให้เวลาและระยะทางการติดต่อหดสั้นลง และที่สำคัญทำให้ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและการขนส่งลดน้อยลงอย่างมาก ในปัจจุบัน ยิ่งกว่านั้น กระแสโลกาภิวัตน์ยังเกี่ยวข้องกับการบูรณาการให้เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ รวมเข้าด้วยกัน ซึ่งปรากฏให้เห็นถึง การเกิดขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า มาตรฐานโลก (common global standards) เช่น ในอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ หรือการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา และการผลิตสินค้าและบริการแต่ละชนิด เป็นกระบวนการผลิตที่มาจากแหล่งผลิตในหลายประเทศแล้วมาประกอบรวมกันภายหลัง ปัจจุบันจึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าสินค้ามีแหล่งผลิต  ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ผลก็คือ ทำให้การตัดสินใจเลือกสถานที่สำหรับการเป็นฐานการผลิตทางอุตสาหกรรมของ บริษัทระหว่างประเทศต่าง ๆ นอกจากจะอาศัยการเปรียบเทียบปัจจัยด้านค่าแรง (labor cost) แล้วยังมีการพิจารณาถึงความได้เปรียบของปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งประเทศที่อยู่ในข่ายว่าจะได้รับการเลือกให้เป็นที่ตั้งฐานการผลิตดัง กล่าว  มีอยู่ เช่น การมีมาตรการและสิ่งจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุน รวมถึงระบบกฎหมายข้อบังคับและระเบียบที่ดีใช้บังคับอยู่ของประเทศนั้นด้วย ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่การใช้วัตถุดิบสำหรับการเป็นปัจจัยการผลิต ในระบบอุตสาหกรรมของประเทศที่มี ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้ลดความสำคัญลง และมีผลกระทบทำให้บทบาทความสำคัญของพื้นที่ที่เป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ ก็ลดลงตามไปด้วย ขณะที่ทุน (capital) กลับมีความสำคัญที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบทบาทของเงินทุนในระบบเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นแรงขับดันของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันและ เงินตรา (currency) ยังได้กลายเป็นแรงขับดันสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในชุมชนเมือง การให้บริการทางการเงินและธุรกิจต่าง ๆ หรือการดำเนินธุรกรรมของทุนผ่านทางศูนย์ธุรกิจการค้าต่าง ๆ และอาคารทันสมัย รวมทั้งการเข้าถึงตลาดทุนและแหล่งข้อมูลข่าวสารและการลงทุนกลายเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นอยู่ภายในเมืองระดับโลกต่าง ๆ และการเคลื่อนย้ายทุน (capital mobility) ได้ทำให้เมือง มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการเป็นจุดเชื่อมต่อของเครือข่ายบริษัทระหว่างประเทศ และของเมืองต่าง ๆ เข้าด้วยกัน (Savitch, 2003, pp. 22-29; Yeung & Lo, 1998, pp. 132-134)               
             การก่อตัวของอุตสาหกรรมที่ใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นหลัก (information-based industries) เช่น ธุรกิจการให้บริการทางการเงิน การบัญชี การโฆษณา และสำนักงานกฎหมาย รวมไปถึงบริการด้านการวิจัยและการพัฒนา การสื่อสารมวลชน ซึ่งสำนักงานใหญ่ ของอุตสาหกรรมและการค้าการบริการเหล่านี้ต่างก็ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการส่งและกระจายข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี จึงได้กลายเป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างในหลายสิ่งหลายอย่าง  ได้แก่ นวัตกรรมทางด้านคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ โทรคมนาคม วัตถุสังเคราะห์ และเทคโนโลยีชีวภาพ ได้ส่งเสริมระบบการผลิต และทำให้ธุรกรรมทางธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีการปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจไปจากแบบเดิมอย่างสิ้นเชิง  รวมทั้งเป็นการเปิดกว้างต่อการสร้างสรรค์ต่าง ๆ อีกด้วย  ดังนั้น พื้นที่ภายในเมืองต่าง ๆ จึงกลายเป็นที่ตั้งโดยธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่ใช้ข้อมูลสารสนเทศเป็นหลัก เนื่องจากเมืองเป็นแหล่งรวมของระบบเศรษฐกิจและเมืองยังมีลักษณะแวดล้อมที่มี ความเป็นนวัตกรรมที่สูง จึงเป็นประโยชน์ต่อการเข้ามาตั้งอุตสาหกรรมดังกล่าว (Clarke, 1996) เมืองได้กลายเป็นแหล่งที่รวบรวมและฟูมฟักให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระดับท้องถิ่นและไปสู่ระดับโลก เมืองได้เพิ่มพูนประโยชน์จากความรู้ความสามารถของมนุษย์และพลังจากเครื่อง จักรกลต่าง ๆ เพราะเมืองก่อให้เกิดการขนส่งที่มีราคาถูกและรวดเร็ว และเมืองทำให้มีตลาดแรงงานที่มีผลผลิตสูงและมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้เมืองยังจะช่วยในการกระจายของผลผลิต แนวคิด (ideas) และทรัพยากรมนุษย์ระหว่างเขตชุมชนเมือง เขตชานเมือง และเขตชนบทลักษณะที่พื้นที่ของเมืองได้รวบรวมเอาสิ่งต่าง ๆ ไว้ในพื้นที่ ทำให้เมืองได้กลายเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือและแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่จะ เกิดขึ้นต่าง ๆ รวมทั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เศรษฐกิจโลกใช้เป็นที่วางแผนและจัดตั้งหน่วย ธุรกิจขึ้นมา เพราะเมืองสามารถแปรเปลี่ยนที่ว่าง (space) ให้เป็นที่สำหรับองค์การต่าง ๆ ที่จะทำหน้าที่ของตนอันหลากหลาย และเมืองมีโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ที่จำเป็นสำหรับการสนับสนุนแรงงานด้านบริการจำนวนหลายล้านคน รวมทั้งเมืองยังจัดให้มีช่องทางสำหรับการขนส่งสินค้า เงินทุน และข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว (Savitch, 2003, pp. 22-29)
             ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เมืองและมหานครต่าง ๆ จะต้องส่งเสริมและโฆษณาเมืองของตนเองเพื่อแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบใน ด้านต่าง ๆ เมื่อมีการเปรียบเทียบกันในเรื่องของการขนส่ง การติดต่อสื่อสาร และการมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการผลิตในทาง อุตสาหกรรม รวมไปถึงความได้เปรียบในเรื่องของความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย การมีที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ มีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ค่าครองชีพไม่สูงเกินไป และมีสิ่งดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว
             ผลที่กำลังเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากลักษณะของเศรษฐกิจโลก ก็คือ เมืองต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคโดยเฉพาะเมืองในระดับมหานคร ต่างก็กำลังแข่งขันกันเองอย่างแข็งขันเพื่อเชิญชวนการเข้ามาลงทุนจากนักลง ทุนภายนอกประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจากประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว หรือนักลงทุนจากภูมิภาคของเอเชีย เช่น จากฮ่องกง สิงคโปร์ และไทเป ที่เห็นได้ชัด ก็คือ พื้นที่การค้า “ปูตง” ของเมืองเซี่ยงไฮ้ก็กำลังแข่งขันกับโครงการ ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก (eastern seaboard project) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ของกรุงเทพมหานครไว้ด้วย (Yeung & Lo, 1998, pp. 132-134)
             เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการแข่งขันกันเพื่อสร้างสิ่งจูงใจสำหรับการเข้ามาลงทุน จากภายนอกของมหานครและเมืองต่าง ๆ ก็จะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้เช่นเดียวกับการแข่งขันอื่น ๆ ซึ่งการเป็นผู้ชนะย่อม หมายถึง การเป็นเมืองที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นผลสำเร็จในเรื่องโครงสร้างพื้น ฐานการให้บริการ การพักผ่อนหย่อนใจ ที่พักอาศัย และส่วนอื่น ๆ ที่สามารถดึงดูดใจให้กับนักลงทุนรายใหม่ ๆ ได้เข้ามาลงทุน และการเป็นเมืองผู้แพ้นั้นก็จะ หมายถึง การที่เมืองมีการชะงักงันทางเศรษฐกิจเพราะปราศจากการลงทุนจากภายนอกและอาจ ส่งผลต่อปัญหาอื่น ๆ ของเมืองด้วย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น